เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ นายหใญ่ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กล่าวว่าทีมของเขาพร้อมที่จะทุ่มเงินมหาศาลในตลาดซื้อขายนักเตะในช่วงซัมเมอร์นี้แล้ว หลังจากที่ไม่ได้มีการใช้จ่ายเงินเกี่ยวกับการผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่ทีมมาตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์และตลาดเดือนมกราคมที่ผ่านมา

สเปอร์ส ทำการก่อสร้างสนามแห่งใหม่และเพิ่งเปิดใช้ไปเมื่อเดือนเมษายน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ยังไม่สามารถใช้จ่ายงบประมาณในการเสริมทัพได้ในช่วงที่ผ่านมา แต่เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ประกอบกับการได้เข้ามาเล่นใน แชมเปี้ยนส์ลีก อย่างต่อเนื่องทำให้เจ้าตัวคาดหวังว่าจะถึงเวลาที่เขาจะได้ทุ่มเงินซื้อนักเตะดาวดังเข้ามาประดับทีมเสียที

ด้วยการทำกำไรไปกว่า 140 ล้านปอนด์ทำให้ ไก่เดือยทอง ก้าวขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งมที่สามารถแข่งขันกับยอดทีมต่าง ๆ ในการดึงนักเตะฝีเท้าดีเข้าสู่ทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ได้ลงทำศึก แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งทำเงินให้กับทีมได้อย่างน้อย 85 ล้านปอนด์ โดย พอช กล่าวกับ The Sun ว่า

“เมื่อก่อนมีคนบอกกับผมว่า การมีผู้เล่นที่มีคุณภาพทัดเทียมกันในทีมนั้นยังไม่สำคัญเท่าการมีสนามแห่งใหม่ที่มีคุณภาพ และถ้าเรายังคงออกสตาร์ทซีซั่นถัดไปด้วยคำพูดแบบนี้อีกล่ะก็ สิ่งดี ๆ ก็จะไม่เกิดขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน”

“ตอนนี้เราสร้างสนามซ้อมเสร็จเรียบร้อย พร้อมทั้งมีสนามแข่งใหม่ แล้วสโมสรต้องการประสบความสำเร็จเรื่องไหนอีก และอะไรคือสิ่งที่แฟนบอลคาดหวังจากสโมสร ตอนนี้เราไม่สามารถอยู่กันแบบที่เราเคยเป็นมาเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาได้อีกแล้ว” พอช กล่าว

หลังจากโดนปลดอย่างเป็นทางการสำหรับ ชูเลน โลเปเตกี กุนซือชาวสเปนที่ตอนนี้เป็นแค่อดีตของทัพ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด หลังเจ้าตัวทำผลงานได้อย่างย่ำแย่กับการเอาชนะในลีกไปแค่ 4 นัด เสมอ 2 แพ้ 4 มีแค่ 20 แต้มจาก 10 นัดเท่านั้น ส่งผลให้ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรตัดสินใจในฟางเส้นสุดท้ายเกมที่โดน “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ถล่มเละเทะ 5-1 ให้เดินออกจากสโมสรไปดีกว่า พร้อมกันนี้ยังได้แต่งตั้ง ซานติอาโก้ โซลารี่ ซึ่งเป็นโค้ชทีมสำรองขึ้นมาคุมทัพชั่วคราว ความน่าสนใจมันอยู่ตรงที่ใครจะก้าวเข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ของทีมกันแน่เพราะตอนนี้ตัวเลือกก็มีอยู่มากพอสมควร พอมาเทียบดูแล้วคนไหนมีโอกาสบ้างลองมาส่องกัน

คนแรกมีข่าวมาแรงสุด ๆ กับ อันโตนิโอ คอนเต้ อดีตกุนซือของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่เพิ่งโดนปลดไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา อีกทั้งยังคงว่างงานอยู่ เจ้าตัวดูจะมีภาษีดีเพราะกับการพาเชลซีคว้าทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีกกับเอฟเอ คัพ ภายใน 2 ซีซั่นที่คุมทัพนับว่าไม่ธรรมดา และเฮ้ดโค้ชชาวอิตาเลียนรายนี้มีประสบการณ์ในการพาทีมประสบความสำเร็จมาก่อนแล้ว ดังนั้นจึงไม่น่าใช่เรื่องยากที่เขาจะทำได้สำเร็จอีกครั้งหนึ่งหากเข้ามานั่งเก้าอี้ตัวนี้จริง ๆ

คนต่อมาที่เพิ่งเป็นข่าวเมื่อไม่นานแต่ก็น่าสนใจมาก ๆ นั่นคือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่ปัจจุบันคุมทัพ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อยู่ และทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ แม้ไม่ใช่ทีมใหญ่แต่กุนซือเลือดอาร์เจนไตน์รายนี้สามารถสร้างทีมให้ขึ้นมาสู้กับบรรดาทีมหัวแถวของตารางได้อย่างสุดยอด บวกกับการเล่นสไตล์เปิดหน้ารุกบุกแหลกซึ่งเป็นสไตล์ที่แฟนบอลมาดริดชอบ ไม่แน่อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกฟุตบอล

คนต่อมา เหตุผลที่มีโอกาสเป็นไปได้ไม่น้อยเพราะเจ้าตัวยังไม่ยอมรับงานไหนสักทีสำหรับ อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตกุนซือของทัพ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ที่ว่างงานมาร่วมครึ่งปี กระนั้นแม้โอกาสที่แฟนบอลมองไม่น่าเป็นไปได้ แต่ในโลกของฟุตบอลมันไม่เคยมีอะไรแน่นอนอยู่แล้ว เผลอ ๆ ข่าวใหญ่ประจำซีซั่นอาจกลายเป็นการตั้งกุนซือเลือดน้ำหอมรายนี้เข้ามากุมบังเหียนในถิ่นซานติอาโก เบอร์นาบิว ก็ได้ ใครจะไปรู้

ต้องรอดูต่อไปว่าท้ายที่สุดแล้วจะใช่ตัวเต็ง 3 คนนี้ในการก้าวเข้ามาเป็นเจ้านายใหญ่คนใหม่ของทัพราชันหรือไม่ หากไม่ใช่ ใครคือคนที่เหมาะสมมากที่สุด